วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

10 เมืองอากาศดี... หนาวนี้อย่าพลาด

1. ปาย 
          เมืองหน้าหนาวสุดฮิต แต่มาปลายฝนต้นหนาวก็ไม่ผิด ข้อดีข้อหนึ่งคือ คุณจะได้เห็นทุ่งนาสีเขียวให้ได้ชื่นชมบ้างก่อนที่เขาจะเก็บเกี่ยวเสร็จ....... 





2. เชียงราย 

               จังหวัดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างมาก ที่นี่ คุณจะได้พบกับความสุข ความกลมกลืน และความสงบผลลัพธ์ที่ได้คือบรรยากาศอันชวนผ่อนคลาย..




3. เชียงใหม่ 
                 กุหลาบงามแห่งล้านนา ดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ สายหมอก และดอกไม้ พอสายลมเย็นๆ.......




 4. เชียงคาน 
                 เรือนไม้เก่าแก่ตั้งเรียงแถวเป็นแนวยาว เดินทอดน่องบนถนนเส้นเล็กๆ ปั่นจักรยานเลียบลำนํ้าโขงชมวิวประเทศลาวซึ่งอยู่ใกล้กันจนเหมือนมือเอื้อมถึง เพราะเสน่ห์อันแสนเรียบง่ายเช่นนี้ทำให้ชื่อของเชียงคานได้รับการรํ่าลือกระฉ่อนเมืองไทยในช่วงเวลาเพียงสองปีที่ผ่านมา 


5. น่าน 
     น่านเป็นเมืองเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยความงดงามของขุนเขา ป่าไม้ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน วัฒนธรรมประเพณีงานศิลปกรรมที่หลากหลาย ทรงคุณค่า วัดวาอาราม บ้านเรือนไทยเหนือแบบโบราณ สถาปัตยกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ




6. สวนผึ้ง 
          สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดราชบุรี ถูกโอบล้อมด้วยหุบเขา อยู่ท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งทะเลหมอก ธารนํ้าร้อนนํ้าตก ทั้งยังสามารถสัมผัสอากาศหนาวเย็นท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติ กางเต๊นท์ ชมหมอก พักผ่อนอย่างมีความสุข.... 




7. เขาสก 
     เขาสกคือป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ เป็นอุทยานแห่งชาติที่สมบูรณ์ทั้งความเขียวสดชื่นและเย็นฉํ่าของสายนํ้าอย่าง"กุ้ยหลินเมืองไทย" หรือ "เขื่อนรัชชประภา" เรียกได้ว่ามาเที่ยวเขาสกได้ทั้งสองบรรยากาศแบบไม่เพียงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติแต่ในด้านประวัติศาสตร์ เขาสกยังเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ คนเขาสกเล่าสืบต่อกันมาว่า ในอดีตลำคลองศกกว้างใหญ่จนเรือสำเภาสามารถแล่นเข้ามาจากปากอ่าวถึงที่นี่ได้ เคยมีการขุดค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีมากมายผืนป่าเขาสกจึงเปรียบเสมือนตัวแทนที่เชื่อมโยงอดีตแห่งอาณาจักรโบราณเมื่อยุคหลายพันปีก่อนกับปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกัน.



8. เขาค้อ
           ตั้งอยู่ในเขตของเมืองมะขามหวาน…เพชรบูรณ์ ‘เขาค้อ’  ชื่อฟังดูบึกบึน (เพราะทำให้นึกถึงพี่เขาค้อ-เขาทรายนักมวยคู่แฝด) แต่เมืองนี้แสนจะอ่อนโยน สุดจะโรแมนติกอย่าบอกใครด้วยหมอกขาวที่ลอยกรุ่นอยู่เสมอๆ โดยฉพาะในช่วงฟ้าหลังฝน ท่ามกลางวิวเนินเขาที่สลับซับซ้อน ที่นี่จึงไม่ยากที่จะทำคะแนนขึ้นเป็นอีกหนึ่งเมืองอากาศดีในใจของใครหลายๆคน อ้อ.... ไปแล้วก็อย่าลืมไปชมทุ่งกะหล่ำปลีสีเขียวสดด้วยนะ กำลังผลิดอกออกผลช่วง เดือนตุลาคม – กลางเดือนธันวาคม






9. วังนํ้าเขียว
                 ดินแดนสีเขียวชอุ่ม ขึ้นชื่อลือชากันในนาม“สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน” อุดมโอโซนบริสุทธิ์ สูดซึมซับกันได้ชุ่มปอด .. ฉํ่าใจไปกับทัศนียภาพภูเขาเนินน้อยใหญ่นานาสัตว์หายาก และพืชพรรณ รวมไปถึงสวนผัก ปลอดสารพิษ ที่สามารถลิ้มลองความสดใหม่ไร้สารกันได้ถึงที่ปลูก ฟังอย่างนี้แล้วถ้าถูกใจ เราจะพาไป GoingGreen กัน ณ บัดนาว!.... 




 10. สังขละบุรี 
                   สังขละบุรีเมืองเล็กๆ ที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของ 3 เชื้อชาติ ทั้งไทย มอญ และกระเหรี่ยงงมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าสนใจมาที่นี่อาจจะไม่พบความศิวิไลซ์เหมือนเมืองอื่น งมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าสนใจมาที่นี่อาจจะไม่พบความศิวิไลซ์เหมือนเมืองอื่น ....







แหล่งอ้างอิงข้อมูลhttp://www.chillpainai.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น